UFABETWIN
UFABETWIN เมื่อแข้งลีดส์รวมหัวเตะไล่โค้ชที่ดีที่สุดของอังกฤษตกเก้าอี้ในเวลาเพียง 44 วัน
การเมืองมีอยู่ทุกที่และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์เสมอมาไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เกมฟุตบอลก็เช่นกัน เพราะในโลกลูกหนังมีการแย่งชิงอำนาจในหลายมิติ และที่น่าสนใจที่สุดคือ อำนาจในห้องแต่งตัว
ตามปกติของเกมฟุตบอล ผู้จัดการทีม หรือ เฮดโค้ช คือคนที่กุมอำนาจของทีมในห้องแต่งตัว และผู้เล่นทุกคนต้องปฏิบัติตามคำสั่งของโค้ชอย่างเคร่งครัด
แต่แฟนลูกหนังทุกคนรู้ดีว่าไม่ใช่ทุกทีมที่นักเตะจะเชื่อฟังคำสั่งโค้ช มีอยู่หลายทีมที่ผู้เล่นมองว่าตัวเองควรมีอำนาจมากกว่าโค้ช หรือมองว่าผู้จัดการทีมคนนี้ไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะนำทีมไปสู่ความสำเร็จได้ ซึ่งหลายครั้งการอยากมีอำนาจของผู้เล่นก็นำไปสู่ปฏิบัติการ “เตะไล่โค้ช” ซึ่งเกิดขึ้นในทีมฟุตบอลทั่วโลก
ถึงการเตะไล่โค้ชจะเกิดขึ้นเป็นปกติของวงการฟุตบอล แต่ในโลกตะวันตกไม่มีวีรกรรมไหนจะโด่งดังไปกว่า การเตะไล่โค้ชของแข้ง ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ทำให้ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษที่ได้รับการขนานนามว่า “เก่งที่สุดตลอดกาล” อย่าง ไบรอัน คลัฟ กระเด็นออกจากตำแหน่งหลังคุมทีมได้เพียง 44 วันเท่านั้น
ครอบครัวลีดส์ ยูไนเต็ด ก่อนที่แข้งลีดส์จะทำการรัฐประหารทีมตัวเองจนลือชื่อ ครั้งหนึ่งนี่คือสโมสรที่บูชาผู้จัดการทีมดุจดั่งพระเจ้า แต่นั่นไม่ใช่กับ ไบรอัน คลัฟ หากแต่เป็นกุนซือคนก่อนหน้าอย่าง ดอน เรวี่
อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษใช้ชีวิตช่วงปลายการค้าแข้งกับลีดส์ ยูไนเต็ด และด้วยความที่เขาเป็นคนแคว้นยอร์กเชียร์อันเป็นที่ตั้งของสโมสรลีดส์ ยูไนเต็ด ทำให้เรวี่เป็นส่วนหนึ่งของทีมได้อย่างรวดเร็ว เขามีความผูกพันมากกับสโมสรแม้จะย้ายมาค้าแข้งได้เพียงไม่กี่ปี และเขาก็อยากพาลีดส์ก้าวขึ้นไปประสบความสำเร็จ
ด้วยไฟอันแรงกล้าของดอน เรวี่ ทัพยูงทองจึงประกาศตั้งเขาขึ้นเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ในปี 1961 ตั้งแต่ยังไม่แขวนสตั๊ดด้วยซ้ำ
หลังจากแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ ดอน เรวี่ เริ่มปฏิวัติสโมสรทันที เขาสั่งเปลี่ยนสีเสื้อเหย้าของลีดส์ให้มาใส่เสื้อสีขาวล้วน โดยเป็นการลอกเลียนแบบมาจาก เรอัล มาดริด สโมสรชื่อดังแห่งสเปนซึ่งเป็นทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดของโลกในเวลานั้น
นี่คือวิธีการปลุกใจแบบฉบับดอน เรวี่ เขาต้องการให้ผู้เล่นของลีดส์มีความเชื่อมั่นว่าพวกเขาแข็งแกร่งไม่ต่างจากเรอัล มาดริด เปรียบดั่งเป็นทีมราชันชุดขาวแห่งเกาะอังกฤษ ซึ่งมันเปลี่ยนลีดส์จากทีมหนีตกชั้นขึ้นมาเป็นทีมหัวตาราง และสามารถเลื่อนชั้นจากดิวิชั่น 2 ขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ในฤดูกาล 1963-64 ได้สำเร็จ ในฐานะแชมป์ดิวิชั่น 2
ดอน เรวี่ ถือเป็นโค้ชที่เก่งกาจด้านจิตวิทยาเป็นอย่างมาก เขาเป็นผู้ชายที่มีทั้งพระเดชและพระคุณในคนๆเดียว และทำให้นักฟุตบอลในทีมทั้งรักไปพร้อมกับเกรงกลัวในเวลาเดียวกัน
โค้ชไฟแรงอย่างเรวี่ประกาศชัดเจนกับนักเตะทุกคนว่า ที่นี่อยู่กันเป็นครอบครัว ทุกคนเข้าใจกันและกัน ไม่มีการด่าทอต่อว่าเสียหาย และเขายังให้ใจกับนักเตะเป็นอย่างมาก พร้อมให้โอกาสทุกคนได้ลงสนาม ไม่ว่าจะเป็นแข้งดาวรุ่งไร้ประสบการณ์หรือนักเตะที่เกิดปัญหาฟอร์มตก เรวี่ก็ยังเชื่อใจเก็บแข้งเหล่านี้ไว้ในทีม
เพียงแค่ขึ้นสู่ลีกสูงสุดในฤดูกาลแรก เรวี่ก็พาแข้งลีดส์ช็อกเกาะอังกฤษด้วยการคว้า “ดับเบิลรองแชมป์” ทั้งถ้วยลีกดิวิชั่น 1 และ เอฟเอคัพ ก่อนจะเดินหน้าคว้าทั้งแชมป์ดิวิชั่น 1, เอฟเอคัพ และลีกคัพ ในเวลาต่อมา
ดอน เรวี่ ได้เปลี่ยนลีดส์ ยูไนเต็ด จากทีมธรรมดาๆให้กลายเป็นสโมสรระดับแถวหน้าของอังกฤษ ซึ่งนอกจากเคล็ดลับด้านจิตวิทยาอันยอดเยี่ยม เรวี่ยังเน้นสร้างจิตวิญญาณของสโมสรด้วยการใช้ผู้เล่นและทีมงานโค้ชที่รักลีดส์จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการดันนักเตะเยาวชนท้องถิ่นขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่อดีตผู้เล่นของทัพยูงทองที่แขวนสตั๊ดก็ถูกดึงมาช่วยงานในฐานะทีมสตาฟฟ์โค้ช
ในยุคนั้น ลีดส์ ยูไนเต็ด ถือเป็นทีมที่มีสปิริตทีมที่ดีมากๆ นักเตะทุกคนรักและภูมิใจที่ได้เป็นผู้เล่นของสโมสรแห่งนี้ แฟนๆก็รักทีมมากเช่นกัน เพราะทีมเต็มไปด้วยนักเตะท้องถิ่น แข้งตำนานก็ยังวนเวียนทำงานช่วยสโมสรอยู่ การจะบอกว่านี่ไม่ใช่แค่ทีมฟุตบอลแต่เป็นเหมือนอีกครอบครัวหนึ่งก็คงไม่ผิดนัก ดอน เรวี่ สร้างอัตลักษณ์ของสโมสรนี้ได้สำเร็จจริงๆ และพร้อมเดินหน้าล่าความสำเร็จด้วยแนวทางนี้
แต่หลังจากคุมทีมมาอย่างยาวนาน เมื่อฤดูกาล 1973-74 จบลง ดอน เรวี่ เลือกทำในสิ่งที่แฟนลีดส์ไม่ได้คาดคิดมาก่อน นั่นคือ การลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีมเพื่อไปรับงานเป็นกุนซือใหญ่ของทีมชาติอังกฤษ และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเตะไล่โค้ชครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ
การเข้ามาของคนนอก ในตอนแรก ใครๆก็คาดการณ์ว่า จอห์นนี่ ไกล์ส กองกลางคนสำคัญของทีม
จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของลีดส์ เพราะในเวลานั้น ไกล์สรับงานควบเป็นโค้ชของทีมชาติไอร์แลนด์อยู่ อีกทั้งตัวของไกล์สก็อยู่กับทัพยูงทองมานานถึง 11 ฤดูกาล เข้าใจทั้งแทคติค ของสโมสรลีดส์ในยุคของเรวี่เป็นอย่างดี
ไม่ว่าจะมองมุมไหน ไกล์สคือตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ ไมค์ แบมเบอร์ เจ้าของสโมสรลีดส์ไม่ได้คิดแบบนั้น ด้วยความทะเยอทะยานที่อยากจะพาลีดส์ไปให้ไกลกว่าเดิมจึงเลือกดึงโค้ชหนุ่มชาวอังกฤษที่อนาคตไกลที่สุดในเวลานั้นมาคุมทัพแทน เขาคนนั้นก็คือ ไบรอัน คลัฟ
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากไมค์ แบมเมอร์ จะอยากได้ไบรอัน คลัฟ มาคุมทีม เพราะเขามีผลงานชิ้นโบว์แดงจากการชุบชีวิตดาร์บี้ เคาน์ตี้ จากดิวิชั่น 2 คว้าแชมป์เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด และใช้เวลาอันสั้นก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์ดิวิชั่น 1 อังกฤษ เรียกได้ว่าเดินตามรอยเส้นทางของดอน เรวี่ แบบไม่มีผิดเพี้ยน
ดังนั้น ในสายตาของแบมเมอร์ เขาจึงเห็นไบรอัน คลัฟ เป็นดอน เรวี่ คนใหม่ แต่นั่นก็เป็นมุมมองของผู้บริหารเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่ในสายตาของนักฟุตบอลที่มีอคติกับโค้ชรายนี้มาตั้งแต่เขายังไม่ได้มาคุมทีมเสียอีก
ไบรอัน คลัฟ ถึงจะมีเส้นทางผู้จัดการทีมคล้ายคลึงกับดอน เรวี่ แต่ปรัชญาการทำทีมของทั้งสองคนต่างกันอย่างสิ้นเชิง ขณะที่เรวี่พยายามรวมทีมเข้ามาเป็นครอบครัว คลัฟกลับมีเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง ทุกคนต้องฟังคำสั่งเขา และถ้าเล่นไม่ได้ดั่งใจก็เตรียมโดนด่าแบบชุดใหญ่ได้เลย
ซึ่งความปากจัดของคลัฟคือชนวนสำคัญที่ทำให้แข้งลีดส์ไม่ชอบหน้าเขา เพราะสมัยที่คลัฟคุมดาร์บี้และเป็นคู่แข่งแย่งลุ้นแชมป์กับลีดส์ กุนซือปากตะไกรรายนี้ชอบออกมาโจมตีแทคติคของดอน เรวี่ อยู่เป็นประจำ
เพราะฟุตบอลของลีดส์ขึ้นชื่อเรื่องการอัดหนักอัดจริงและเข้าปะทะบอลแบบถึงลูกถึงคนที่ทำให้วงการฟุตบอลอังกฤษขยาดไปตามๆกัน ซึ่งคลัฟไม่ชอบสไตล์บอลแบบนี้มาก และมักจะด่าลีดส์ว่าเป็นทีมฟุตบอลที่มีแต่กำลัง สมควรถูกปรับตกชั้นไปจากการเล่นที่รุนแรง แถมยังเคยด่าว่าลีดส์เป็นสโมสรของพวกขี้โกงอีกด้วย
แถมไบรอัน คลัฟ ยังเคยดูถูกอัตลักษณ์ความเป็นครอบครัวของลีดส์ โดยบอกว่าครอบครัวของลีดส์ ยูไนเต็ด ไม่เคยมีอยู่จริง เพราะสำหรับเขามันเหมือนกับมาเฟียที่คุมสถานรับเลี้ยงเด็กมากกว่า แน่นอนว่าด่าแรงขนาดนี้ แข้งลีดส์ย่อมมีอคติกับตัวของคลัฟอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ทางด้านคลัฟกลับไม่สนใจ ทั้งที่รู้ตัวว่าจะต้องโดนต่อต้าน แต่เขาก็มองโอกาสคุมลีดส์เป็นการสร้างชื่อครั้งสำคัญ และเชื่อว่าวิธีการของเขาจะใช้ได้ผลกับลีดส์ ยูไนเต็ด น่าเสียดายที่มันไม่เคยเกิดขึ้น…
44 วันของ ไบรอัน คลัฟ ยังไม่ทันที่ไบรอัน คลัฟ จะได้เริ่มงาน เขาก็เจอกับปัญหาใหญ่ เมื่อ ปีเตอร์ เทย์เลอร์ ผู้ช่วยโค้ชคู่บุญของเขาไม่ยอมย้ายมาทำงานที่ลีดส์เพื่อขึ้นรับงานเป็นผู้จัดการทีมของไบร์ทตัน ซึ่งปกติแล้ว เทย์เลอร์คือคนที่เป็นกันชนให้กับคลัฟ และเป็นสายประนีประนอมคอยอธิบายให้ลูกทีมเข้าใจ ยามที่นายใหญ่อย่างคลัฟกำลังหัวเสียอย่างหนัก