UFABETWIN

UFABETWIN ก็ไม่ย้าย.. ใครจะทำไม? : ย้อนรอย “กาก้า (ไม่)ไป แมนฯ ซิตี้” ดีลร้อยล้านที่ซื้อใจนักเตะแข้งทองไม่ได้

หากคุณเป็นแฟนฟุตบอล คงเห็นข่าวการย้ายทีมของ แฟรงกี้ เดอ ยอง กองกลาง บาร์เซโลน่า ที่จ่อปิดดีลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สุดท้ายก็ไม่มีการย้ายทีมแบบออฟฟิเชียลเกิดขึ้นสักที

เหตุผลก็เป็นเพราะ ในขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมซื้อ และสโมสรก็พร้อมขาย แต่ตัวนักฟุตบอลอย่าง แฟรงกี้ เดอ ยอง กลับไม่ต้องการย้ายทีม และไม่ยอมจรดปากกาเป็นสมาชิกใหม่ของทัพปีศาจแดงเสียที ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่ดราม่าแบบนี้เกิดขึ้นในโลกฟุตบอล

 

ย้อนไปในปี 2009 เกิดตำนานระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่หวังจะคว้าหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของโลกตอนนั้นอย่าง กาก้า ด้วยการทุ่ม 100 ล้านยูโร หวังกระชากยอดแข้งชาวบราซิลจาก เอซี มิลาน แต่โชคร้ายที่กาก้าพร้อมทำทุกทางเพื่อไม่ย้ายไปอยู่กับแมนฯ ซิตี้

 

กาก้า และ เอซี มิลาน ริคาร์โด้ กาก้า ไม่ใช่แค่ตำนานนักเตะของแฟนบอลเอซี มิลาน แต่ในยุคสมัยหนึ่ง เขาคือพระเจ้าตัวจริงเสียงจริงของชาวมิลานที่ศรัทธาในฝั่งสีแดง

 

หลังจากย้ายสู่เอซี มิลาน ในปี 2003 กาก้าก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะตัวหลักของทีมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกลายเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีมหลังจากนั้นไม่นานนักผลงาน 70 ประตูจากการลงสนาม 193 นัดจาก 6 ฤดูกาลในตำแหน่งกองกลางตัวรุก บวกกับพาเอซี มิลาน คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปจนถึงแชมป์สโมสรโลก

ด้านรางวัลส่วนตัวก็การันตีด้วยการคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมจากหลายสถาบันในปี 2007 ทั้งรางวัลบัลลงดอร์, รางวัล และรางวัลของ UEFA ภาพของกาก้าผูกติดกับเอซี มิลาน อย่างมาก เพราะนี่คือสโมสรเดียวของเขาในทวีปยุโรป ณ เวลานั้น แทบไม่มีใครจินตนาการภาพว่ากาก้าจะอำลามิลานในช่วงที่เขายังอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพนักฟุตบอล และแฟนบอลจำนวนมากก็เชื่อว่ากาก้าจะแขวนสตั๊ดกับสโมสรที่เขารักทั้งหัวใจ

 

อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนมาเริ่มต้นในฤดูกาล 2007-08 หลังจากคว้าแชมป์ยุโรปอย่างยิ่งใหญ่ในปีก่อนหน้า เอซี มิลาน กลับจบฤดูกาลด้วยอันดับ 5 ของตาราง อดไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ฤดูกาล 2001–02 หรือเป็นครั้งแรกที่กาก้ากำลังจะไม่ได้เล่นฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรป

ขณะที่ผลงานของทีมปีศาจแดงดำไม่สู้ดีนัก กาก้าก็ยังคงมีผลงานที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนั้น ด้วยการยิง 19 ประตู ทำให้เริ่มมีคำถามเกิดขึ้นว่า กาก้าควรจะย้ายหนีเอซี มิลาน ไปอยู่กับทีมที่คู่ควรกับฝีเท้าของเขาหรือไม่?

 

อย่างไรก็ตาม กาก้าก็ยันหนักชัดเจนว่าเขารักต้นสังกัดของเขาสุดหัวใจ และอยากจะแขวนสตั๊ดกับเอซี มิลาน ให้ได้ แต่ใครๆก็รู้ว่ามันเริ่มเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น เพราะด้วยสภาพเศรษฐกิจยุโรปที่เริ่มแย่ลง เอซี มิลาน กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาทางการเงิน และทางเดียวที่จะทำให้สโมสรได้เดินหน้าไปต่อแบบสบายๆคือ การขายกาก้าออกจากทีม

นอกจากนี้ ในเมื่อมิลานมีปัญหาด้านการเงิน แถมนักเตะส่วนใหญ่ในทีมก็อายุมากและเริ่มเข้าสู่ขาลงของอาชีพ ยิ่งแสดงภาพให้เห็นว่าโอกาสที่ทีมปีศาจแดงดำจะยิ่งใหญ่เหมือนช่วงหลายปีก่อนหน้านี้เป็นไปได้ยาก และหากกาก้ายืนหยัดอยู่กับทีมต่อไป เขาอาจไม่ได้คว้าแชมป์ถ้วยใหญ่ๆอีกเลยก็ได้

 

ไม่ว่าจะมองทางไหน เส้นทางฟุตบอลของกาก้าก็ต้องจบที่การย้ายทีมสักวัน แต่สโมสรไหนจะกล้ายื่นข้อเสนอมหาศาลเพื่อซื้อหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก? ซึ่งคำตอบคือทีมเศรษฐีใหม่จากเกาะอังกฤษอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

เงินซื้อความรักไม่ได้ ย้อนไปในช่วงฤดูร้อนปี 2008 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกิดการเทคโอเวอร์ที่เหนือความคาดหมายเกิดขึ้น เมื่อเจ้าของเก่าอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ขายทีมเรือใบสีฟ้าให้กับกลุ่มทุนอาบูดาบีจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำให้แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีเจ้าของทีมรวยที่สุดในโลกทันที

 

ทัพเรือใบสีฟ้าเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งทันที ด้วยการคว้าตัว โรบินโญ่ กองหน้าชาวบราซิลชื่อดังจาก เรอัล มาดริด แต่นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นของแผนการสร้างความยิ่งใหญ่ของแมนฯ ซิตี้ ยุคใหม่ พวกเขาต้องการนักเตะที่จะเข้ามาเป็นหน้าตาของทีม เป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือทีมหัวแถวของโลก

ในเวลานั้นไม่มีใครจะตอบโจทย์ไปกว่า กาก้า ด้วยฝีเท้าระดับแถวหน้า ภาพลักษณ์ยอดเยี่ยม มีแฟนบอลให้ความรักอยู่ทั่วโลก และด้วยความที่มีเงินทุนมหาศาลมากพอจะยื่นข้อเสนอที่เอซี มิลาน พอใจได้ ยอดเพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิลจึงเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งที่แมนฯ ซิตี้ ต้องการซื้อตัวมาให้ได้ และต้องได้ตัวมาอย่างเร็วที่สุด

 

ดังนั้น ในช่วงตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคม 2009 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงเดินหน้ายื่นข้อเสนอ 100 ล้านยูโรให้กับเอซี มิลาน นี่คือข้อเสนอที่บ้าคลั่งมากๆในเวลานั้น และจะทำลายสถิติโลกนักเตะค่าตัวที่แพงที่สุดแบบไม่ต้องสงสัย

 

UFABETWIN

 

สำหรับ เอซี มิลาน ไม่มีความลังเลที่จะตอบรับข้อเสนอของ แมนฯ ซิตี้ เพราะเงิน 100 ล้านยูโรก้อนนี้จะช่วยให้ทีมบริหารงานแบบสบายๆไปอีกหลายปี และคงไม่มีทีมไหนจะให้ข้อเสนอที่เยอะไปกว่านี้อีกแล้ว สื่อฟุตบอลทั่วโลกเชื่อว่ากาก้าจะมาเป็นสมาชิกใหม่ของแมนฯ ซิตี้ แน่ๆ

 

แต่สำหรับแฟนบอลหลายคนก็คิดว่า นักเตะระดับโลกอย่างกาก้าจะยอมย้ายมาเป็นสมาชิกทีมที่มีแค่เงินแต่ไม่มีความสำเร็จอย่าง แมนฯ ซิตี้ (ในเวลานั้น) จริงหรือ? ซึ่งขนาดแฟนบอลยังสงสัย ไม่ต้องสืบเลยว่าสำหรับกาก้านี่คือการเดินถอยหลังไม่ใช่ความก้าวหน้า

 

กาก้ายืนยันหนักแน่นว่าเขาจะไม่ไปเล่นให้แมนฯ ซิตี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ยอมไป ขณะที่ฝั่งสโมสรเอซี มิลาน ก็เกลี้ยกล่อมแกมบังคับว่า กาก้าจะต้องไปเล่นที่อังกฤษกับทีมเศรษฐีใหม่ เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของสโมสร

 

“ตอนนั้นผมไม่เข้าใจอะไรเลย เพราะแมนฯ ซิตี้ ก็ไม่เคยติดต่อกับพ่อของผมที่เป็นเอเยนต์มาโดยตรง พวกเขาไปคุยกับสโมสร และให้สโมสรมาคุยกับผมอีกที”

 

“เอซี มิลาน ในเวลานั้น ไม่ใช่ทีมที่จะขายนักเตะที่ดีและอยากเล่นกับทีมออกไป ซึ่งผมก็ไม่ได้อยากย้ายทีมด้วย แต่พวกเขาก็บอกผมว่า -ผมต้องย้ายทีม นี่คือสิ่งที่สำคัญมากสำหรับสโมสร เพราะเงินก้อนนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทีมจะปฏิเสธได้-” กาก้า ย้อนความหลังถึงตอนที่ตัวเองรู้ว่าต้องย้ายไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

กาก้ารู้หัวใจตัวเองดีว่าเขาไม่อยากออกจากเอซี มิลาน แต่คำขออย่างหนักจากสโมสรเริ่มทำให้เขาลังเล ทว่าสุดท้าย หลังจากปรึกษากับคนรอบตัว กาก้าก็เลือกเดินตามหัวใจตัวเอง และเขายืนยันว่าจะไม่ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้

“ผมรู้สึกแย่กับตัวเองมาก ผมลงสนามและแฟนๆตะโกนว่า -อย่าขายวิญญาณของนายนะ กาก้า- ผมแทบจะร้องไห้ออกมา มันแย่มากๆในตอนนั้น ผมไม่ใช่คนที่อารมณ์อ่อนไหว แต่ผมเครียดมากและจิตตก ผมโฟกัสกับอะไรในชีวิตไม่ได้เลย” กาก้า กล่าว

 

กาก้าเผยว่าเขาแทบจะคุยกับผู้บริหารของทีมเกือบทุกวันเพื่อย้ำว่าเขาไม่อยากย้ายทีม เพราะเขารู้ดีว่าทีมอยากขายเขาให้แมนฯ ซิตี้ พอๆกับที่เขาอยากอยู่เอซี มิลาน ต่อไป นี่คือการต่อสู้ครั้งใหญ่ในแคมป์ของทีมปีศาจแดงดำ และจะไม่จบจนกว่าจะมีฝ่ายหนึ่งยอมแพ้

 

กาก้าดิ้นรนอย่างหนักถึงขั้นไปขอให้ผู้จัดการทีมในเวลานั้นอย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ ที่มีอำนาจมากกว่าตัวเขาในสโมสรช่วยยืนอยู่ข้างเขา แต่ยอดโค้ชชาวอิตาลีกลับไม่ยอมช่วยเขา โดยเขาบอกกับนักเตะรายนี้อย่างตรงไปตรงมาว่า ถ้าเขาช่วยกาก้า เอซี มิลาน จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆแน่นอน เพราะเขาเลือกข้างแล้วในปัญหาครั้งนี้

 

เมื่อรู้ว่ามัดใจกาก้าไม่ได้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงเข้ามาพูดคุยกับกาก้าโดยตรง และมอบข้อเสนอค่าเหนื่อยก้อนโตที่เยอะกว่าปัจจุบันที่เขาได้รับจากเอซี มิลาน มากๆ จนกาก้ายอมรับว่า เขาเริ่มไขว้เขวเหมือนกัน หลังจากได้เห็นข้อเสนอของแมนฯ ซิตี้

 

กาก้าเผยว่าทุกอย่างเอื้อให้เขาย้ายไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ว่ามองมุมไหน นี่คือทางเลือกที่ดีกว่า แต่มันก็ทำให้เขาตกลงจรดปากกาย้ายทีมไม่ได้ เพราะสิ่งเดียวที่ทีมเรือใบสีฟ้าทำไม่สำเร็จคือ ไม่สามารถซื้อใจของกาก้าไปจากเอซี มิลาน ได้

 

“ในช่วงท้ายของการซื้อขาย โทรศัพท์ของตัวแทนจากแมนฯ ซิตี้ โทรเข้ามา ผมให้พ่อไปเจรจา ในเวลาเดียวกัน ผมก็ออกไปดูนอกหน้าต่าง มีแฟนบอลนับร้อยอยู่หน้าบ้านผม แฟนมิลานรักผม พวกเขายังรักผม และผมก็รักพวกเขา” กาก้า เล่าโมเมนต์ที่ทำให้เขาตัดสินใจเลือกทางของตัวเองได้

 

นั่นจึงนำมาซึ่งเหตุการณ์อันโด่งดังที่กาก้าตัดสินใจชูเสื้อเอซี มิลาน ให้แฟนบอลได้รับรู้ เพื่อเป็นการแสดงออกอย่างเป็นทางการว่า เขาไม่ย้ายไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และดีลนี้ก็ไม่เกิดขึ้นจริง

 

UFABETWIN

 

 

ถ้าวันนั้นเลือก แมนฯ ซิตี้? เอซี มิลาน ยอมรับการตัดสินใจของกาก้า พวกเขาปล่อยเงินก้อนโตทิ้งไป และเดินหน้าต่อด้วยความหวังว่าจะมีสักทีมที่ยื่นข้อเสนอที่ดีพอเข้ามา

 

ซึ่งไม่ต้องรอนาน ในเดือนมิถุนายน ปี 2009 หรือประมาณ 5 เดือนหลังจากนั้น กาก้าได้ย้ายไปอยู่กับยอดทีมจากสเปนอย่าง เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวสถิติโลก (ในเวลานั้น) ที่ 68.5 ล้านยูโร หรือประมาณ 2,530 ล้านบาท

ทุกอย่างเหมือนจะแฮปปี้เอนดิ้งสำหรับทุกฝ่าย แต่ความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น การย้ายทีมไปอยู่กับเรอัล มาดริด ของกาก้าไม่ประสบความสำเร็จแบบที่ควรจะเป็น เขาเสียความเก่งกาจหลังจากย้ายมาอยู่ที่สเปน โดยยิงไปแค่ 29 ประตู จากการลงสนาม 120 นัด ใน 4 ฤดูกาล

 

อีกทั้งเนื่องจากย้ายมาอยู่กับเรอัล มาดริด ในยุคที่ทีมคู่ปรับอย่าง บาร์เซโลน่า เป็นทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก แถมผลงานของเขายังห่างชั้นกับเพื่อนร่วมทีมซูเปอร์สตาร์อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้ชื่อเสียงของกาก้าลดลงไปมาก และเขาก็เสียสถานะยอดนักเตะชั้นนำของโลกไปอย่างรวดเร็ว

 

ถึงจะไม่ใช่การล้มเหลวที่เลวร้าย แต่การย้ายมาเล่นกับทีมราชันชุดขาว ในความเป็นจริงคือการเดินถอยหลังในอาชีพนักฟุตบอลของกาก้าที่ทำให้เขาไม่ได้กลับไปอยู่บนจุดสูงสุดอีกเลย

 

ยิ่งเวลาผ่านไป คำถามก็ยิ่งเริ่มดังขึ้นว่า จะเป็นอย่างไรหากกาก้าตอบรับข้อเสนอของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้? เพราะหลังจากอกหักจากยอดนักเตะชาวบราซิล ทีมเรือใบสีฟ้าก็สามารถซื้อใจผู้เล่นคนอื่นให้มารวมตัวกันแล้วสร้างความสำเร็จในเวลาไม่กี่ปีหลังจากนั้น

“ถ้าแมนฯ ซิตี้ ในวันนั้นเป็นเหมือนวันนี้ ผมคงตอบรับข้อเสนอแบบไม่ต้องคิดอะไรมากมาย” กาก้า กล่าว ” โชคร้ายที่ตอนนั้นเรื่องมันต่างออกไป ผมถูกขอให้ย้ายจากทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งในยุโรปไปอยู่กับทีมที่ไม่มีอะไรเลยที่เพิ่งเริ่มต้นโปรเจ็กต์เท่านั้น”

 

“ในตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าแผนการของแมนฯ ซิตี้ เป็นอย่างไร? พวกเขามีความทะเยอทะยานมากแค่ไหน? พวกเขาไม่ได้บอกผมเลยว่ามีแผนจะซื้อใครมาเพิ่มนอกจากผม หรือกระทั่งแผนในระยะสั้นและระยะยาว”

 

จะดีแค่ไหนหากเราได้เห็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่มีพรสวรรค์มากที่สุดคนหนึ่งอย่าง กาก้า ลงเล่นในลีกยอดนิยมอย่าง พรีเมียร์ลีก? นี่คือสิ่งที่แฟนๆได้แต่คิด และกาก้าก็ยอมรับว่าเขาจินตนาการเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลาเช่นกัน

 

อย่างไรก็ดี แม้กาก้าจะยอมรับว่า หากเรื่องนี้เกิดขึ้นในปัจจุบัน เขาคงย้ายไปเล่นให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แน่นอน แต่เขาก็ยืนยันอีกว่า เขาไม่มีอะไรให้เสียดายและเสียใจในทางที่เลือก เพราะในตอนนั้น เขาได้เลือกทางที่ดีที่สุดให้กับตัวเองไปแล้ว

 

“ผมได้เล่นให้กับเรอัล มาดริด นั่นคือหนึ่งในฝันของผมที่เป็นจริง เพราะผมคิดมาตลอดว่า ถ้าจะออกจากมิลาน ผมก็ขอไปเล่นที่มาดริด และการปฏิเสธแมนฯ ซิตี้ ก็ยืนยันได้ดีว่า เงินไม่เคยเป็นปัจจัยในการเล่นฟุตบอลของผม และผมก็ภูมิใจในอาชีพนักฟุตบอลของผม”

 

“ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผมไม่มีอะไรจะบอกมากไปกว่าคำว่า -ผมไม่อยากไปร่วมทีมจริงๆ แต่ขอบคุณมากที่สนใจในตัวผม-” กาก้า เผย

สุดท้ายแล้ว กาก้าได้เลือกทางที่ดีที่สุดในเวลานั้น และแม้จะไม่สมหวังกับกาก้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เดินหน้าสร้างทีมของตัวเองต่อไป

บทเรียนของกาก้าสามารถแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันของ แฟรงกี้ เดอ ยอง ที่คงตัดสินใจแล้วว่า เขาเลือกทางที่ดีที่สุดให้ตัวเอง แม้จะมีสโมสรที่รักเขามากๆ อยากได้ตัวไปร่วมทีมก็ตาม

 

ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ว่าจะได้หรือไม่ได้ตัวกองกลางที่ต้องการ สโมสรแห่งนี้ก็ต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อสร้างเส้นทางความสำเร็จของตัวเองอีกครั้ง

ไม่แน่ว่าในอนาคต แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจกลับมาประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องมี เดอ ยอง เหมือนกับที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่ได้โดยไม่ต้องมี กาก้า

 

UFABETWIN

 

UFABETWIN

UFABETWIN แฮร์รี แมไกวร์ ของ แฮร์รี แมไกวร์ของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เป็นตัวเลือกแรกของ เอริก เตน ฮาก แต่ความกดดันยังคงอยู่ในขณะที่เขาแสวงหาการไถ่ถอน เป็นตัวเลือกแรกของ เอริก เตน ฮาก แต่ความกดดันยังคงอยู่ในขณะที่เขาแสวงหาการไถ่ถอน

UFABETWIN เพิร์ธ, ออสเตรเลีย — เป็นสัญญาณว่าแฮร์รี่ แม็คไกวร์

UFABETWIN กำลังดำเนินไปอย่างไร เมื่อแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยอมรับเป้าหมายกับเมลเบิร์นวิคตอรี่ที่ ในคืนวันศุกร์ผู้ประกาศข่าวโฮสต์ชาวออสเตรเลียก็จดจ่ออยู่กับเขาแฮร์รี แมไกวร์ กองหลังที่แพงที่สุดในโลกฟุตบอลถูกแซงหน้าโดย

คริสโตเฟอร์ ออยโคโนมิดิส ของ  แต่เขาไม่ได้อยู่คนเดียวในความผิด ลุค ชอว์และวิกเตอร์ ลินเดอเลิฟต่างออกจากตำแหน่ง แต่แม็คไกวร์เป็นผู้รับผิดชอบส่วนใหญ่ เขาอยู่ภายใต้กล้องจุลทรรศน์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ทัวร์ฤดูร้อนของไทยและออสเตรเลียกำลังถูกเรียกเก็บเงินเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับผู้เล่นของยูไนเต็ด เเอริก เตน ฮาก มาถึงโดยสัญญาว่าจะบีบทีมให้มากขึ้นซึ่งต้องใช้เงินหลายร้อยล้านในการประกอบ แต่สามารถจบอันดับที่หกในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่

แล้วซึ่งตามหลังแชมป์ แมนเชส เตอร์ซิตี้ 35 แต้ม ผลงานในลีกที่ย่ำแย่ของพวกเขาประกอบกับการโชว์ถ้วยที่น่าผิดหวังหลังจากพ่ายแพ้ในแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้าย, การออกคาราบาวคัพรอบที่สามและเอฟเอ คัพที่ล้มเหลวในรอบที่สี่

แม็คไกวร์ซึ่งยอมรับว่ามีแคมเปญที่ไม่ดีกลายเป็นเด็กโปสเตอร์สำหรับความผิดปกติของทีมทั้งในและนอกสนาม มีความผิดพลาดมากมายหลายอย่างรวมถึงใบแดงในเกมที่แพ้วัตฟอร์ด 4-1 ซึ่งทำให้โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ต้องตกงานในฐานะผู้จัดการทีมและยังมีเรื่องราวของการชักเย่อในห้องแต่งตัวกับคริสเตียโน โรนัลโดที่นำไปสู่เครื่องหมายคำถาม เหนือตำแหน่งกัปตันของเขา

ไม่มีใครต้องการกระดานชนวนที่สะอาดมากไปกว่ากองหลังทีมชาติอังกฤษ เท็น แฮกมาถึงกรุงเทพฯ ก่อนเกมอุ่นเครื่องอุ่นใจครั้งแรก และนำฉบับหนึ่งเข้านอนทันที “แฮร์รี่ แม็คไกวร์คือกัปตัน” กุนซือชาวดัตช์กล่าวเมื่อถูกถามว่าใครจะสวมปลอกแขนในฤดูกาลหน้า “ผมมองว่ากัปตันเป็นปัญหาที่ผมกำหนดเสมอ การสร้างทีมสำหรับผมคือประเด็นสำคัญ และฉันมักจะพูดถึงกลุ่มผู้นำ กัปตันคือคนที่สำคัญจริงๆ และฉันก็มีความสุขกับเขา”

เอริก เตน ฮาก สืบทอดทีมซึ่งรวมถึงกองหลังอาวุโสหกคน ได้แก่แฮร์รี แมไกวร์, ราฟาแอล วาราน , วิคเตอร์ ลินเดลอฟ, เอริก บายี  , ฟิล โจนส์ และอักแซล ตวนเซเบและเขาได้เซ็นสัญญากับลิซานโดร มาร์ติเนซ ซึ่งเข้าร่วมจากในราคา 46.8 ปอนด์ เมตร

เอริก เตน ฮาก  รู้จัก ลิซานโดร มาร์ติเนซ เป็นอย่างดีจากช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันในอัมสเตอร์ดัม และที่สำคัญคือ ชาวอาร์เจนติน่าเป็นผู้เล่นเท้าซ้ายเพียงคนเดียวในกลุ่ม เพื่อความสมดุล เอริก เตน ฮาก  ต้องการให้เท้าซ้ายเล่นทางซ้ายและเท้าขวาเล่นทางด้านขวา ซึ่งหมายความว่ามาร์ติเนซมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ทีมโดยตรงเมื่อยูไนเต็ดเริ่มเปิดฤดูกาลกับไบรตันที่ Old Trafford เมื่อวันที่ 7 ส.ค.

และเนื่องจากกัปตันมักจะลงเล่นทุกสัปดาห์ เอริก เตน ฮาก  ยอมรับในระหว่างการสัมภาษณ์ในเมลเบิร์นว่าการสรุปว่าแมกไกวร์จะเป็นคู่หูของมาร์ติเนซที่สมควรได้รับก็เป็นเรื่องที่ยุติธรรม ตราบเท่าที่เขาสมควรได้รับ

UFABETWIN

“ฉันคิดว่าเขาเป็น [ผู้เล่นตัวเลือกแรก]” เท็น ฮาก กล่าว

“เขาพิสูจน์มาแล้วในอดีต แต่เขายังต้องพิสูจน์มันทั้งในปัจจุบันและอนาคต เขาเล่นให้อังกฤษ 60 ครั้ง แฮร์รี่น่าประทับใจจริงๆ และฉันคาดหวังมากจากเขา แต่มีการแข่งขันภายในและ นั่นคือสิ่งที่สโมสรอย่างแมนฯ ยูไนเต็ดต้องการ คุณไม่สามารถชนะด้วยผู้เล่น 11 คน เราต้องการทีม”

นอกจากนี้ยังมีคำถามว่าแมกไกวร์มีความเร็วหรือความสามารถในการป้องกันตัวต่อตัวเพื่อให้ประสบความสำเร็จในระบบไฮไลน์ของ เอริก เตน ฮาก หรือไม่ เอริก เตน ฮาก ยืนยันว่าเขาทำได้ แต่การพิสูจน์จะมาในช่วงสัปดาห์เปิดฤดูกาลเท่านั้น สำหรับตอนนี้

ดูเหมือนว่าลินเดลอฟ, ไบญี่ และผู้ชนะแชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย วาราน ที่เซ็นสัญญาเมื่อซัมเมอร์ที่แล้วเท่านั้น จะต้องรอเป็นปีก แต่ด้วยผู้เล่นที่มีความสามารถนั้นทำให้ม้านั่งสำรอง แม็กไกวร์ไม่มีข้อผิดพลาดมากนัก

เขาอาจชนะ เอริก เตน ฮาก  ไปแล้ว แต่เขายังมี งานต้องทำ เพื่อให้กองเชียร์ยูไนเต็ด กลับมา เมื่อชื่อของเขา ถูกอ่านออกที่ เอ็มซีจี ก่อนชัยชนะ 3-1 เหนือคริสตัลพาเลซ ในวันอังคารได้รับการต้อนรับด้วยเสียงโห่ร้องจากฝูงชนจำนวนมาก 76,000 คน ในช่วง 30 นาทีแรก ทุกการสัมผัสของเขาถูกโห่และจะหยุดเมื่อเขาเกือบจะทำประตูเท่านั้น

โดนนี ฟัน เดอ เบก กล่าวหลังจากนั้น ว่าเขาไม่เข้าใจ แผนกต้อนรับ ในขณะที่หัวหน้า ยูไนเต็ด พยายามที่จะปัดเป่ามันออกไปในขณะที่โขนโห่ร้องเสียงโห่ร้องชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียงจากฝูงชนชาวออสซี่ที่ดุร้าย แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันเกิดขึ้น

หลังจากถูกเปลี่ยนตัวระหว่างที่พ่ายแอตเลติโก มาดริดที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดเมื่อเดือนมีนาคม เขาก็ได้รับเสียงเชียร์จากสนามและโห่ไล่ขณะเล่นให้ทีมชาติอังกฤษในเกมกระชับมิตรกับไอวอรี่ โคสต์ในเดือนนั้นที่เวมบลีย์

เอริก เตน ฮาก สัญญาว่า จะให้การสนับสนุน แต่มีความรู้สึก ในหมู่เ จ้าหน้าที่ฝึก สอนว่าวิธีเดียวที่จะ พลิกกระแสคือ การแสดงที่แข็งแกร่ง อย่างสม่ำเสมอ “ฉันจะสนับสนุนเขาทุกที่ที่ทำได้ แต่ในที่สุดเขาก็ต้องทำด้วยตัวเอง

และเขาก็มีคุณสมบัติที่จะทำได้” เท็น ฮาก กล่าว “เขาแสดงให้เห็นบ่อยมากในอดีต”แม็คไกวร์ต้องแสดงให้เห็นอีกครั้ง ขณะเป็นผู้นำในยุคใหม่ของเท็น แฮก สปอตไลท์เปิดอยู่และความกดดันก็เช่นกัน UFABETWIN